|
รูปแบบการจัดการศึกษา (โครงการศูนย์การศึกษาสำหรับเด็กพิเศษ) |
|
|
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ฝ่ายประถม) ได้จัดตั้งโครงการศูนย์การศึกษาสำหรับเด็กพิเศษ |
|
เพื่อจัดการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษที่มีศักยภาพในการเรียนร่วมได้ในระดับชั้นอนุบาล 1 - 3 และดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 การจัดการศึกษานั้น ได้เปิดโอกาสทาง การศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษโดยเน้นระบบการศึกษาแบบเรียนร่วมในชั้นเรียนปกติ
มีครูการศึกษาพิเศษคอยดูแลในชั้นเรียนตามศักยภาพของผู้เรียน และทั้งนี้ยังมีการจัดระบบการศึกษาสำหรับนักเรียนที่ไม่สามารถเรียนร่วมได้ในบางรายวิชา โดยให้เรียนในห้องเรียนเสริมวิชาการกับครูการศึกษาพิเศษ ซึ่งได้จัดเนื้อหาการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา พร้อมทั้งให้สอดคล้องกับความแตกต่างระหว่างบุคคล ทั้งนี้ได้มีการจัดรูปแบบของชั้นเรียน ดังนี้ |
|
|
|
|
|
|
|
1. ชั้นเตรียมความพร้อมเรียนร่วม หมายถึง การจัดการศึกษาให้นักเรียนในระดับชั้นอนุบาล 1 และ |
|
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ ให้แก่นักเรียน เช่น ด้านวิชาการ การช่วยเหลือตนเอง ด้านทักษะทางสังคม ก่อนที่จะเข้าสู่ระบบการเรียนร่วมใน
ชั้นเรียนปกติ แต่จะมีเรียนร่วมบางเวลา เช่น วิชาดนตรี ศิลปะ นาฏศิลป์ พลศึกษา การงานอาชีพ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น |
|
|
|
|
2. ชั้นเรียนร่วมบางเวลา หมายถึง การจัดการศึกษาให้นักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ เรียนในชั้นเรียนปกติ |
|
ในบางรายวิชาโดยประเมินจากความสามารถของนักเรียนเป็นรายบุคคล
ซึ่งวิชาพื้นฐานที่นักเรียนจะได้เรียนร่วม คือ วิชาดนตรี ศิลปะ นาฏศิลป์ พลศึกษา การงานอาชีพ คอมพิวเตอร์ และร่วมกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี หรือรายวิชาอื่น ๆ เพิ่มเติมตามศักยภาพของนักเรียน ซึ่งนักเรียนที่รับการจัดการศึกษาในลักษณะนี้ คือ มีความบกพร่องระดับปานกลางถึงระดับมาก
จึงไม่อาจเรียนร่วมเต็มเวลาได้ ทั้งนี้ในรายวิชาที่นักเรียนไม่สามารถเรียนร่วมได้ ทางโครงการศูนย์การศึกษาพิเศษได้จัดการศึกษาในชั้นเรียนพิเศษโดยครูการศึกษาพิเศษเป็นผู้สอน ซึ่งมีเนื้อหาการเรียนสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษา |
|
|
|
|
3. ชั้นเรียนร่วมเต็มเวลา หมายถึง การจัดให้นักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ ได้เรียนชั้นเดียวกับเด็กปกติ |
|
ตลอดเวลาที่เด็กอยู่ในโรงเรียนรวมทั้งกิจกรรมนอกโรงเรียน เป็นการจัดการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ ที่มีความสามารถในการเรียนรู้และมีความพร้อม
ทางวุฒิภาวะทางอารมณ์และสังคม |
|
|
|
|
รายวิชาในการจัดการเรียน ระดับปฐมวัย |
|
|
การจัดการเรียนการสอนเรียนร่วมระดับปฐมวัย โรงเรียนมีการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ |
|
(Integration) โดยให้นักเรียนร่วมกิจกรรมกับนักเรียนภาคปกติ 2 กิจกรรม
คือ กิจกรรมเสรี และกิจกรรมกลุ่ม และในระดับชั้นอนุบาล 3 จะเพิ่มทักษะภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ และดนตรีสากล สัปดาห์ละ 1 ครั้ง นอกจากนั้นนักเรียนยังได้รับการส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ที่เหมาะสม และสอดคล้องกับพัฒนาการ โดยมีหลักสูตรที่ยืดหยุ่น
ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล |
|
|
|
|
|
นอกจากนี้โรงเรียนยังมีกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นกิจกรรมให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรง นักเรียนได้ลงมือ |
|
ปฏิบัติจริงส่งเสริมทักษะ 5 ด้าน ได้แก่ ทักษะด้านการรับรู้และความสนใจ ทักษะด้านสังคม ทักษะด้านกล้ามเนื้อ ทักษะความพร้อมทางด้านวิชาการ และทักษะด้านอารมณ์ โดยมีการจัดกิจกรรมในรูปแบบโครงการต่าง ๆ คือ |
|
|
1. โครงการสุขภาพดีชีวีมีสุข
2. โครงการทัศนศึกษานอกสถานที่
3. เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของทางโรงเรียน ฯลฯ |
|
|
|
|
|
|
การวัดและประเมินผล |
|
|
ประเมินผลพัฒนาการของนักเรียนเป็นรายบุคคลอย่างต่อเนื่องจากการทำกิจกรรม และกิจวัตรประจำวัน |
|
ซึ่งมีรูปแบบยืดหยุ่นต่อการพัฒนาทักษะ 5 ด้าน โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ |
|
|
1. การจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล โดยมีคณะกรรมการ |
|
|
2. การนำ IEP สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน |
|
|
3. แบบสังเกตพฤติกรรมในการเรียน โดยอาจารย์ผู้สอนและอาจารย์ผู้ดูแล |
|
|
4. จัดอุปกรณ์และสิ่งจำเป็นอื่น ๆ ปรับวิธีการสอบ กำหนดเวลาในการสอบให้เหมาะสม/พร้อมที่จะสอบ |
|
|
5. พิจารณาเป็นรายบุคคล |
|
|
|
|
รายวิชาในการจัดการเรียน ระดับประถมศึกษา |
|
|
โครงการศูนย์การศึกษาสำหรับเด็กพิเศษ จัดเนื้อหาการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา พร้อมทั้งให้ม |
|
ีความสอดคล้องกับความแตกต่างระหว่างบุคคล ตามสาระวิชา 8 กลุ่มสาระ ดังนี้ |
|
|
1. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย |
|
|
2. กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ |
|
|
3. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ |
|
|
4. กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม |
|
|
5. กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา |
|
|
6. กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี |
|
|
7. กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ดนตรีไทย นาฏศิลป์ |
|
|
8. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) |
|
|
|
|
|
การวัดและประเมินผล |
|
|
1. การจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล โดยมีคณะกรรมการ |
|
|
2. การนำ IEP สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน |
|
|
3. ให้ใช้เกณฑ์ประเมินผลสาระการเรียนรู้นั้นตามปกติ |
|
|
4. แบบสังเกตพฤติกรรมในการเรียน โดยอาจารย์ผู้สอนและอาจารย์ผู้ดูแล |
|
|
5. จัดอุปกรณ์และสิ่งจำเป็นอื่น ๆ ปรับวิธีการสอบ กำหนดเวลาในการสอบให้เหมาะสม/ พร้อมที่จะสอบ |
|
|
6. พิจารณาเป็นรายบุคคล |
|
|
|
|
|
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน |
|
|
โครงการศูนย์การศึกษาสำหรับเด็กพิเศษ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนกลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน |
|
เพื่อพัฒนาผู้เรียนในด้านต่าง ๆ เสริมจากสาระวิชา 8 กลุ่มสาระ ดังมีการจัดรูปแบบการเรียนตามศักยภาพของนักเรียนเป็นรายบุคคล ดังนี้ |
|
|
|
|
|
|
- การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกิจกรรมการใช้ห้องสมุด เป็นกิจกรรมที่จัดสอนให้ผู้เรียนในระดับอนุบาล 1 - 3 ถึง ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในทักษะการใช้ห้องสมุด การจัดเก็บและสืบค้นข้อมูล การดูแลรักษาหนังสือ การยืม-คืน หนังสือ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสืบค้นข้อมูล เพื่อปลูกฝังให้เรียนเป็นผู้ใฝ่รู้ สามารถคิดเป็น ทำเป็น ฉลาด และรู้จักเลือกสิ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น |
|
|
|
|
|
|
- การจัดการเรียนการสอนกิจกรรมฝึกพูด เป็นการจัดกิจกรรมที่จัดสอนให้กับผู้เรียนใน
ระดับอนุบาล 1 - 3 ถึง ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 เฉพาะนักเรียนที่มีปัญหาใน
การพูดและการใช้ภาษาทั้งในชีวิตประจำวันและที่เป็นปัญหาในการเรียน ซึ่งจะมีการจัด รูปแบบการสอนและกิจกรรมให้สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียนแบบรายบุคคลเพื่อ
ให้สามารถมีทักษะในการใช้ภาษาที่ดีขึ้น |
|
|
|
|
|
- การจัดการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อ เป็นการจัดกิจกรรมที่จัดสอนให้กับผู้เรียนในระดับอนุบาล 1 - 3 ถึง ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 เฉพาะนักเรียนที่มีปัญหาเกี่ยวกับทักษะทางร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อมัดเล็ก กล้ามเนื้อมัดใหญ่ รูปแบบกิจกรรมบำบัด |
|
|
|
|
|
- การจัดการเรียนการสอนกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม เป็นการจัดกิจกรรมที่จัดสอนให้กับผู้เรียนในระดับอนุบาล 1 - 3 ถึง ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 เฉพาะนักเรียนที่มีปัญหาเกี่ยวกับความบกพร่องทางทักษะด้านอารมณ์และสัมคม ซึ่งโรงเรียนได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม ตลอดจนพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของนักเรียน เพราะคุณธรรมส่งผลต่อพฤติกรรม ความคิด และจิตใจของนักเรียน จะทำให้นักเรียนสามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีความสุข และเป็นคนดี ในสังคมและประเทศชาติต่อไป |
|
|
|
|
|
- การจัดการเรียนการสอนกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี ของโรงเรียนแบ่งหลักสูตรลูกเสือ-เนตรนารี ออกเป็น 2 หลักสูตร ได้แก่ |
|
|
|
หลักสูตรลูกเสือ-เนตรนารีสำรอง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 |
|
|
|
หลักสูตรลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 |
|
|
โดยจัดกิจกรรมจะมุ่งปลูกฝังความมีระเบียบวินัย กฎเกณฑ์ เพื่อการอยู่ร่วมกัน อันนำไปสู่พื้นฐาน |
|
การทำประโยชน์แก่สังคม และพัฒนาบุคลิกภาพลักษณะนิสัย ให้มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ มีความสำนึกที่ดี รู้จักช่วยเหลือผู้อื่นและรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ |
|
|
|
|